หญิงงามแดนมังกร
ไซซี ............งามจน มัจฉาจมวารี หวังเจาจวิน ........งามจน ปักษีตกนภา เตียวเสี้ยน...........งามจน จันทร์หลบโฉมสุดา หยางกุ้ยเฟย........งามจน มวลผกาละอายนาง
เมื่อไซซีทำกลศึก ให้อ๋องที่เป็นศัตรูคู่แค้นของแผ่นดินบ้านเกิดเธอหลงเสน่ห์นั้น เธอไปทำเป็นนั่งซักผ้าอยู่ริมธารตรงที่อ๋ององค์นั้นจะ ผ่านมา และเมื่อท่านอ๋องเสด็จขี่ม้าผ่านมาเห็นความงามของเธอ ก็หลงใหลในเสน่ห์ของเธอสมดังอุบาย พอเข้าวังไปได้แล้วเธอก็ไปดำเนินกลต่อจนอ๋ององค์นั้นเสียบ้านเสียเมืองไปเลย
เล่ากันว่าเมื่อไซซีนั่งซักผ้าริมธารนั้น ปลาที่ว่ายน้ำมาเห็นเธอก็ตะลึง ลืมว่ายน้ำจมหายไปเลย จึงเปรียบเธอว่า งามจนมัจฉาจมวารี.... รูปไซซี ศิลปินจีนจึงมักวาดให้เป็นรูปหญิงงามกำลังซักผ้าริมลำธาร
2. หวังเจาจวิน เกิดเมื่อประมาณ 33 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. ๓๔๑-๕๕๑) ในรัชสมัยฮั่นหยวนตี้ ทางเหนือและใต้ทำสงครามกัน ไม่หยุดหย่อน ชายแดนไม่มีความสงบสุข เพื่อที่จะทำให้เผ่าซงหนูทาง ชายแดนด้านเหนือสงบลง ฮั่นหยวนตี้จึงได้พระราชทานนางสนมให้ สมรสกับข่านฮูหานเสีย เพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเมือง) นางสนมคนหนึ่งนามว่า หวังเฉียง ฉายาเจาจวิน มีรูปโฉมที่งดงามและกอปรด้วยความรู้ ยินดีเสียสละเพื่อชาติที่จะไปแต่งงานยังเผ่าซงหนู
ในขณะที่ หวังเจาจวินกำลังแสดงความเคารพต่อฮั่นหยวนตี้อยู่นั้น พระองค์ก็ได้ทรงเห็นใบหน้าอันงดงามของหวังเจาจวิน รวมทั้งกิริยามารยาทก็สุภาพเรียบร้อย นับว่าเป็นสาวงามในราชสำนักฮั่นคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อฮั่นหยวนตี้เสด็จกลับวังแล้ว ทรงพระพิโรธเป็นอย่างยิ่ง มีบัญชาให้หัวหน้าขันทีไปนำเอารูปภาพของหวังเจาจวินมาให้ ทอดพระเนตร ในรูปภาพนั้นแม้จะมีส่วนที่คล้ายคลึงอยู่บ้าง แต่ไม่มีความงดงามเหมือนหวังเจาจวินตัวจริงโดยสิ้นเชิง
ตามประเพณีของจีนแล้ว บรรดานางสนมที่ถูกคัดเลือกส่งเข้ามาในวัง โดยปรกติจะไม่ได้พบกับองค์ฮ่องเต้โดยตรง แต่ทางราชสำนักจะจัดให้นางสนมเหล่านั้นเป็นแบบให้จิตรกรวาดภาพ และส่งภาพเหล่านั้นไปให้ฮ่องเต้เลือก หากเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย ก็จะได้มีโอกาสรับใช้องค์ฮ่องเต้
หนึ่งในจิตรกรที่วาดภาพเหล่านางสนมนั้น มีอยู่คนนามว่า 'เหมาเหยียนโซ่ว เวลาที่วาดภาพนางสนมทั้งหลายนั้น หากนางสนม คนใดให้สินบน ก็จะวาดให้สวยงาม หวังเจาจวิน มิคิดที่จะติดสินบน ดังนั้นเหมาเหยียนโซ่ว จึงวาดภาพให้นาง 'งดงามต่ำกว่าความเป็นจริง' เมื่อฮั่นหยวนตี้ทรงประจักษ์ในความจริงเช่นนี้ จึงทรงพิโรธอย่างมาก รับสั่งให้ประหารชีวิตเหมาเหยียนโซ่วทันที
หวังเจาจิน ในหนังของ ชอร์บาเดอร์
หวังเจาจวิน เดินทางออกไปนอกด่าน ในวันที่ท้องฟ้าสดใส ระหว่างทาง เสียงม้าและเสียงนกร้องทำให้นางเศร้าโศก ยากที่จะ ทำใจได้ นางจึงได้ดีดพิณขึ้นเป็นทำนองที่แสดงความโศกเศร้าจากการพลัดพราก บรรดานกที่กำลังจะบินไปทางใต้ ได้ยินเสียงพิณอันไพเราะ เช่นนี้ จึงมองลงไป เห็นหญิงงามอยู่บนหลังม้า ก็ตะลึงในความงาม ลืมที่จะขยับปีก จึงร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน นับแต่นั้นเป็นต้นมา หวังเจาจวินจึงได้รับ ขนานนามว่า “ความงามที่ทำให้ฝูงนก ร่วงหล่นจากท้องฟ้า” ( ปักษีตกนภา ) นั่นเอง
หวังเจาจวินต้องจากบ้านเกิดไปไกล อาศัยอยู่ในดินแดนของ เผ่าซงหนูเป็นเวลานาน นางได้ 'เกลี้ยกล่อม' ฮูหานเสียอย่าให้ทำ สงคราม ทั้งยังเผยแพร่วัฒนธรรมของชาวฮั่นให้แก่ชาวซงหนูอีกด้วย นับจากนั้นเป็นต้นมา เผ่าซงหนูและราชวงศ์ฮั่นต่างก็อยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข และไม่มีสงครามเป็นเวลายาวนานถึงหกสิบกว่าปี
3.เตียวเสี้ยน ในเรื่อง สามก๊ก ในกลอุบายสาวงาม ศิลปินมักวาด เป็นรูปกำลังจุดธูปเทียนบูชาพระจันทร์ เชื่อว่าเกิดใน ค.ศ. 169 ซึ่งเป็นยุคสามก๊ก และปรากฏตัวในนิยายเรื่องสามก๊กด้วย เตียวเสี้ยน เป็นเด็กที่อ้องอุ้นขุนนางผู้ใหญ่ในพระเจ้าเหี้ยนเต้ เก็บมาเลี้ยงไว้ มีรูปโฉมที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง และมีความสามารถในการฟ้อนรำเป็นเลิศ เมื่ออองอุ้นมหาอำมาตย์ตงฉินผู้ซื่อต่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของ เตียวเสี้ยน วางแผนจะกำจัดกังฉินเสี้ยนหนามแผ่นดินคือตั๋งโต๊ะผู้กำเริบ ตนเองเป็นมหาอุปราช โดยจะใช้เสน่ห์เตียวเสี้ยนยั่วให้ตั๋งโต๊ะผิดใจกับลิโป้ อัศวินคู่ใจตั๋งโต๊ะนั้น
เตียวเสี้ยน ร่ายรำ ต่อหน้า ตั๋งโต๊ะ
อองอุ้นแกล้งเชิญตั๋งโต๊ะกับลิโป้มากินเลี้ยงแล้วก็บอกว่า ตนมีลูกสาวบุญธรรมคนหนึ่งที่หน้าตาสวยงามมาก ลือกันว่าสวยกว่า จันทรเทวีฉางเอ๋อ จนจันทร์เจ้าอาย ทั้ง 2 กังฉินนั่นไม่รู้กลก็ตื่นเต้น อยากเห็น อองอุ้นก็แกล้งถ่วงเวลาไว้ ที่จริงอองอุ้นรู้ว่าคืนนั้นจะมี จันทรุปราคา พอใกล้เวลาจันทรคราสก็ให้เชิญเตียวเสี้ยนออกมา ทันใดนั้นพระจันทร์ก็สิ้นแสงหมดรัศมี
ตั๋งโต๊และลิโป้จึงตื่นเต้นมากว่าเตียวเสี้ยนเป็นหญิงงามเย้ยจันทร์จริงๆ เตียวเสียนก็จุดธูปกระทำคารวะต่อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์เชิญให้ออกมา จันทร์ก็สว่างดังเดิม ต่อจากนั้นทั้งสองคนก็หลงใหลเสน่ห์เตียวเสี้ยนจนโงหัวไม่ขึ้น จนถึงกับฆ่าฟันกันเองตามกลของอองอุ้นที่วางไว้ เตียวเสี้ยนแตกต่างจากหญิงงามอีกสามคน เนื่องจากไม่ได้รับการยืนยันว่ามีตัวตนจริงใน ประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพียงหญิงรับใช้ของตั๋งโต๊ะที่มีความสัมพันธ์กับลิโป้ ซึ่งเป็นขุนศึกของตั๋งโต๊ะเท่านั้น
4. หยางกุ้ยเฟย เป็นชายาของฮ่องเต้ถังเสวียนจง ในราชวงศ์ถัง ศิลปินมักวาดเป็นสองรูป คือตอนกำลังเมาเหล้าเริงระบำ หรือตอนกำลังออาบน้ำร้อน เธอได้ชื่อว่ามีรูปโฉมงามมากจนกระทั่ง เมื่อตามเสด็จพระเจ้าถังเสวียนจงฮ่องเต้ประพาสสวนหลวง ดอกไม้ต่างๆ ก็หุบกลีบไม่กล้าแย้มบานประชันความงามกับเธอเลย จึงได้สมญาว่า งามจน มวลผกาละอายนาง
จักรพรรดิซวนจ่งลุ่มหลงในความงามของหยางกุ้ยเฟย จนไม่สนใจ ในการปกครองอาณาประชาราษฎร์ บริหารราชการแผ่นดิน จนประเทศจีน ได้รับการคุกคามจากศัตรูภายนอก และบรรดาขุนนางต่างคุกคามฮ่องเต้ ให้ประหารหยางกุ้ยเฟย โดยโทษไปที่หยางกุ้ยเฟยที่เป็นเหตุให้ฮ่องเต้บริหารราชการผิดพลาด ไม่เอาใจใส่ ด้วยเหตุนี้ หยางกุ้ยเฟยจึงแขวนคอตายเพื่อประเทศและฮ่องเต้ชายอันเป็นที่รัก
รูปปั้น หยางกุ้ยเฟย
เรื่องของสนมหยางจบเศร้ากว่าคนอื่นๆ ที่จริงนางงามคนอื่นอีก 3 คน ก็ไม่ใช่ว่าจะมีความสุข ทุกคนต้องสละความงามของตนเพื่อแลกกับผล ทางการเมืองทั้งนั้น แต่ก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรสตรี สละตนเพื่อแผ่นดิน แต่หยางกุ้ยเฟยได้รับคำประณามว่า ความงามของเธอก่อผลสะเทือนทาง การเมืองจนพระเจ้าถังเสวียนจงต้องสูญราชบัลลังก์ แพ้ข้าศึก และมติมหาชนประณามเธอ จนขุนทหารราชวงศ์ถังบีบบังคับให้เธอต้องผูกคอตาย เพราะ หาว่าเธอเป็นต้นเหตุความพินาศของบ้านเมือง
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
Size : 44.52 KBs
Upload : 2012-04-03 01:45:02
|
|
ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?
|
สถานะ : ผู้ใช้ลงทะเบียน
ภาษาไทย
|
|
|